ชี้แจง พ่อเฒ่าตายใต้เสาไฟฟ้าที่หาดใหญ่ จากเหตุหัวใจวาย

ญาติชี้แจงข่าว‘พ่อเฒ่าตายใต้เสาไฟฟ้า’ที่หาดใหญ่ หมอชันสูตรแล้วเสียชีวิตจากสาเหตุเส้นเลือดหัวใจตีบและกล้ามเนื้อหัวใจตาย เผยเป็นเจ้าของที่ดินเดินไปเก็บสายโทรศัพท์ที่ถูกทิ้งระเกะระกะในที่ดินจะเอาไปทิ้ง และไม่ได้ปีนเสาไฟฟ้าจนตกลงมา...


ตามที่มีการเสนอข่าว ‘ปริศนา! พ่อเฒ่าที่หาดใหญ่ ล้มตอทิ่มตายใต้เสาไฟ’ ทางไทยรัฐออนไลน์ เมื่อวันที่ 23 ก.พ.58 ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหา ว่า นายเคลื่อน สุวรรณวงศ์ อายุ 78 ปี ได้เสียชีวิตอย่ใต้เสาไฟฟ้า ภายในซอยเพชรทอง ถนนกาญจนวนิชย์ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ร.ต.อ.อานนท์ สุขช่วย พนักงานสอบสวน ตำรวจ สภ.คอหงส์ รับแจ้งเหตุ ไปพลิกศพพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์ รพ.สงขลานครินทร์ และหน่วยกู้ภัยมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ้งหาดใหญ่

พบศพนายเคลื่อนในสภาพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ข้างเสาไฟฟ้า สภาพสวมกางเกงขายาวสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตแขนยาวลายร่อง ตรวจร่างกายซีกขวาพบซี่โครงหัก 2 ซี่ และมีบาดแผลแตกเหนือคิ้วขวาเล็กน้อย นอกจากนี้ยังพบสายเคเบิลโทรศัพท์ถูกตัดทิ้งไว้ความยาวเกือบ 100 เมตร กองอยู่บนถนน ลักษณะเหมือนถูกลากมา จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อช่วงเช้ามืด มีชาวบ้านได้ยินเสียงหมาเห่าและหอนแต่ไม่มีใครสนใจ กระทั่งเช้า มีคนพบศพจึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายคงลากสายโทรศัพท์ที่กองอยู่มาจากปากซอย ถึงที่เกิดเหตุบริเวณเสาไฟเกิดอาการหน้ามืดเป็นลมล้มทับไปที่ตอไม้พอดี หรืออาจปีนเสาไฟฟ้าแล้วเกิดพลัดตกลงมาทับตอไม้แทงเข้าซี่โครง ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่มีใครมาพบ จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด

อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการนำเสนอข่าวดังกล่าว ทางญาติของนายเคลื่อน สุวรรณวงศ์ ผู้ตาย ได้ชี้แจงว่า ผู้ตายมีที่ว่างเปล่าอยู่ข้างบ้านอาศัยเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ เดิมทีให้เช่าประกอบกิจกรรมค้าขายวัสดุก่อสร้าง และเมื่อสัญญาเช่าครบกำหนดผู้ตายไม่ให้เช่าต่อและปรับพื้นที่ดินใหม่เพื่อใช้ประโยชน์ในการทำกิจการของลูกๆ

ต่อมาเมื่อ 2–3 เดือนก่อนมีเจ้าหน้าที่ของโทรศัพท์ไม่ทราบหน่วยงานได้ปรับปรุงเปลี่ยนสายสัญญาณโทรศัพท์และได้ทิ้งสายโทรศัพท์เก่าความยาวประมาณ 30 เมตรไว้ริมถนน ซึ่งส่วนหนึ่งอยู่ในที่ดินของผู้ตายด้วย จนกระทั่ง เริ่มมีวัชพืชขึ้นปกคลุม และผู้ตายมักพูดเสมอว่าสายโทรศัพท์วางเกะกะอยู่ในที่ดินไม่มีหน่วยงานใดเก็บไปทิ้ง
จนกระทั่งวันเกิดเหตุผู้ตายตื่นนอนแต่เช้าตามปกติและคาดว่าจะลากสายเคเบิลโทรศัพท์ที่วางอยู่ในที่ดินไปทิ้งในที่ดินอีกแปลงซึ่งอยู่ในซอยข้างบ้าน และโรคหัวใจกำเริบหมดสติลงริมถนนในซอยข้างบ้านซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 100 เมตร และแรงงานรับจ้างที่อาศัยอยู่ในซอยไม่รู้จักผู้ตาย ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวลูกหลานที่อาศัยอยู่ด้วยกัน ต่างทำภารกิจเพื่อไปทำงานและไปโรงเรียนตามปกติจึงไม่มีใครทราบ

จากผลการชันสูตรศพของแพทย์ พบว่า นายเคลื่อนเสียชีวิตด้วยเหตุเส้นเลือดหัวใจตีบและกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน จึงต้องการให้มีการนำเสนอข่าว เพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัยว่าผู้ตาย ลากสายไฟฟ้ามาเพื่ออะไร และไม่ได้ปีนขึ้นเสาไฟฟ้าตามที่มีการตั้งข้อสันนิษฐานกันในชั้นต้น แต่อย่างใด.

ที่มา: thairath.co.th